นายกรัฐมนตรีเผยให้สามารถนั่งทานอาหารที่ร้านได้จนถึง 21.00 น. ย้ำต้องมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด เดินหน้าเตรียมความพร้อมวัคซีนระยะแรกจำนวน 2 ล้านโดส

นายกรัฐมนตรีเผยจากการรับฟังข้อเสนอจากสมาคมภัตตาคารไทยที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากคำสั่งยกระดับมาตรการป้องกันโควิด-19 จึงได้ขอให้ยกเลิกคำสั่งของกทม. ไปก่อนและให้ขยายระยะเวลานั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารได้จนถึง 21.00 น. แต่ต้องมีมาตรการเข้มงวดทั้งการกำหนดจำนวนคน เว้นระยะห่าง ผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หากไม่สามารถดำเนินการได้ อาจให้ปิดบริการ โดยนายกรัฐมนตรีย้ำว่าเข้าใจถึงสถานการณ์และไม่ต้องการให้เกิดผลกระทบรุนแรงต่อภาคธุรกิจ ทั้งนี้ รัฐบาลได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว ทั้งมาตรการและการจัดหางบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเตรียมการรับสถานการณ์ต่อไป
สำหรับความคืบหน้าในการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ซึ่งได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปบ้างแล้วในบางประเทศ ขณะที่ประเทศไทยคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนเป็นหลัก ต้องผ่านมาตรฐานการรองรับจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ไม่มีผลข้างเคียง ซึ่งมอบหมายให้กรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีนแห่งชาติทำงานร่วมกัน เบื้องต้น คาดว่าจะได้รับจากวัคซีนเบื้องต้นเป็นจำนวน 2 ล้านโดส ในระยะเวลา 3 เดือน โดยจะจัดลำดับการฉีดวัคซีนตามความเร่งด่วน และวัคซีนอีก 26 ล้านโดสจะเข้ามาในระยะต่อไป และจะมีเพิ่มเติมอีก 35 ล้านโดส ซึ่งคาดว่าจะทำให้สามารถฉีดวัคซีนแก่คนไทยส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดได้ ทั้งนี้ ก็จะมีการพิจารณาหากมีความจำเป็นที่ต้องฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ ก็มีความพร้อมในการผลิต